ควรทำความสะอาดของเล่นทุกวัน สำหรับบ้านที่มีเด็กวัย 0-3 ขวบ ที่มักหยิบจับของเข้าปากตัวเอง หรือไม่ได้ล้างมือให้สะอาดแล้วนำมือมาหยิบอาหารเข้าปาก เชื้อโรคก็อาจเข้าสู่ร่างกายเด็กได้โดยง่าย ส่วนเด็กอายุมากกว่า 3 ขวบ และไม่ได้มีนิสัยเอาของเล่นใส่ปาก ก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน แนะนำให้ทำความสะอาดทุก 1-2 สัปดาห์ ยกเว้นกรณีจำเป็นที่ต้องทำความสะอาดของเล่นหรือฆ่าเชื้อโรคทันที เช่นในกรณีดังต่อไปนี้
ทำความสะอาดของเล่น เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะเมื่อลูกป่วยบ่อย พ่อแม่หลายคนอาจมุ่งสงสัยไปที่ อาหารการกิน สภาพแวดล้อมที่แออัด หรือเชื้อโรคอื่นๆ รอบ ตัว เชื้อโรคที่คิดกันเอาเองว่ายากแก่การป้องกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเชื้อโรคส่วนมากมักไม่มีความสามารถในการเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ได้โดยตรง จะต้องผ่านการหยิบจับ หรือการนำพาเข้าสู่ร่างกาย การทำความสะอาดของเล่นควรทำให้ถูกตามประเภทของเล่นนั้นๆ ด้วย
ทำความสะอาดของเล่น สำคัญอย่างไร
การทำความสะอาดของเล่นและข้าวของเครื่องใช้เด็กนั้น เป็นเรื่องที่ทุกบ้านให้ความสำคัญ แต่ของเล่นเด็ก ของที่เป็นสิ่งที่ดูเหมือนไม่จำเป็น แต่กลับติดตัวลูกน้อยของเราอยู่ตลอดเวลาด้วยความที่เด็กเล็กนั้นยังมีภูมิต้านทานน้อย มีผิวและร่างกายที่บอบบาง และยังมีความซุกซนอยากรู้อย่างเล่นอยากหยิบของใส่ปากไปเสียทุกอย่าง จึงสามารถเจ็บป่วยจากเชื้อโรคชนิดต่างๆ ได้ง่ายดายกว่ามากเมื่อเทียบกับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ การเก็บกวาดปัดถูบ้าน จัดสรรสภาพแวดล้อมที่สะอาดเป็นระเบียบ รวมถึงการทำความสะอาดของใช้ลูกน้อยประเภทต่างๆ อยู่เสมอจึงนับเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยปละละเลย
เมื่อพูดถึงการทำความสะอาดของเล่นคุณพ่อคุณแม่บางท่านก็เริ่มหนักใจ เมื่อหันไปดูสารพัดข้าวของเครื่องใช้ของเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าจะเป็นขวดนม, เบาะนอน, ที่นอน, หมอน, มุ้ง, ตุ๊กตา, หนังสือนิทาน และกองทัพของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการต่างๆ นานา แต่ความหนักหนานี้จะเบาบางลงได้ ด้วยวิธีจัดระบบแยกประเภทการทำความสะอาด
ควรทำความสะอาดของเล่นบ่อยแค่ไหน
- หลังลูกหายจากการเจ็บป่วย เช่น เป็นหวัด โรคมือเท้าปาก โรคท้องเสีย
- ทำความสะอาดทันทีหลังจากมีเด็กคนอื่นมาเล่นของเล่นในบ้าน เพราะเราไม่ทราบว่าเด็กคนอื่นอาจมีเชื้อโรคแฝงอยู่
- ของเล่นเลอะคราบสกปรก คราบอาหาร คราบอาเจียน คราบอุจจาระปัสสาวะ คราบน้ำมูกน้ำลายเสมหะ เพราะเชื้อโรคจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนภายใต้คราบเหล่านี้
- ลูกมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ทำให้ติดเชื้อง่ายกว่าเด็กปกติ
วิธีทำความสะอาดของเล่นแต่ละประเภท
1. ของเล่นเด็กที่ทำจากไม้
การทำความสะอาดของเล่นไม้ต้องใช้ความใส่ใจและระวังมากกว่าของเล่นชนิดอื่นเล็กน้อย ซึ่งเคล็ดลับสำคัญ คือ อย่าทำให้ของเล่นเปียกชุ่มมากเกินไป ไม่งั้นอาจทำลายโครงสร้างได้ นอกจากนี้อย่าปล่อยผึ่งลมไว้เป็นเวลานาน ควรรีบทำให้แห้งเร็วที่สุด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียหายลงนั่นเอง ของเล่นเด็กที่ทำจากไม้ เช่น กล่องดนตรี รถลาก กล่องหยอดรูปทรงเรขาคณิต ม้าโยก เป็นต้น
- นำผ้าสะอาดชุบน้ำ หรือเลือกใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน บิดให้หมาดก่อนนำไปเช็ดของเล่นไม้
- ไม่ควรใช้ผ้าเปียกๆ เช็ดของเล่น หรือนำของเล่นไปล้างน้ำ เพราะน้ําจะซึมเข้าไปในเนื้อไม้ และก่อให้เกิดเชื้อรา เป็นอันตรายต่อเด็กได้
- เมื่อเช็ดเสร็จให้นําของเล่นไปตากแดดหรือให้ลมโกรกจนแห้ง แล้วค่อยเก็บของเล่นให้เข้าที่
2. ของเล่นพลาสติก
การทำความสะอาดของเล่นส่วนใหญ่มักจะทำจากพลาสติก เพราะนอกจากจะแข็งแรง ทนทาน ยังทำความสะอาดง่ายมาก ของเล่นที่ทำจากพลาสติก เช่น ของเล่นเขย่า ลูกบอล เป็นต้น
- ล้างด้วยน้ำสบู่ น้ำผสมน้ำยาล้างจาน หรือเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด
- สะบัดน้ำออกให้หมดก่อนที่จะนำไปผึ่งลมให้แห้งสนิท
- นำสำลีชุบแอลกอฮอล์ หรือทิชชู่เปียก มาเช็ดคราบฝังแน่น หรือแช่ของเล่นด้วยน้ำผสมสบู่เด็ก ก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด
- ใช้ผ้าสะอาดเช็ดของเล่น และผึ่งลมให้แห้ง การตากแดดนานๆ อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ
ถ้าหากทำความสะอาดของเล่นและอยากฆ่าเชื้อให้หมดเกลี้ยงจริงๆ สามารถใช้ผ้าเปียกที่ผสมน้ำยาซักผ้าขาว Clorox หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ Lysol มาเช็ดจนพื้นผิวเปียกชุ่มสักประมาณ 10 วินาทีก็ได้ หรือจะใช้ผ้าจุ่มสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% หรือผสมสารฟอกขาว ½ ถ้วย เข้ากับน้ำ 1 แกลลอน แล้วนำไปเช็ดให้ทั่วของเล่นเป็นเวลา 5 นาที ซึ่งวิธีทั้งหมดนี้ เมื่อทำเสร็จแล้วอย่าลืมรอให้แห้ง ค่อยล้างน้ำสะอาดออกอีกครั้งเพื่อกำจัดสารตกค้าง จากนั้นตากให้แห้งอีกที เท่านี้ก็ช่วยกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
3. ของเล่นเด็กที่ทำจากยาง
การทำความสะอาดของเล่นของเล่นที่ทำจากยางผิวนุ่ม น่าสัมผัส แต่ต้องขอบอกเลยว่าความจริงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นยอด ถ้าไม่ล้างทำความสะอาดเป็นประจำ คงไม่ดีกับสุขอนามัยของลูกน้อยแน่นอน ฉะนั้นต้องหมั่นทำความสะอาดของเล่นประจำ โดยก่อนซักให้แช่ของเล่นเหล่านี้ไว้ในน้ำสบู่อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยคลายคราบสกปรก จากนั้นค่อยใช้มือขัดๆ ถูๆ เพื่อทำความสะอาด หรือจะใช้ฟองน้ำช่วยขจัดคราบที่ฝังอยู่ก็ได้ เคล็ดลับหากต้องการขจัดคราบสกปรกฝังแน่นมากจนไม่ยอมหลุด ให้ลองใช้แปรงสีฟันคู่กับน้ำส้มสายชู นอกจากจะช่วยขจัดคราบแล้ว ยังสามารถกำจัดเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. วิธีทำความสะอาดของเล่นที่ทำจากผ้า
การทำความสะอาดของเล่นที่ทำจากผ้า เช่น ตุ๊กตาผ้า โมบายห้อยแขวน
- นำของเล่นผ้าไปซักด้วยผลิตภัณฑ์ซักผ้าหรือผงซักฟอกที่ใช้ซักเสื้อผ้าเด็กที่มีคุณสมบัติอ่อนโยน หลังซักเสร็จให้บีบจนหมาด ก่อนนำไปตากแดดหรือผึ่งลมให้แห้ง สะบัดน้ำออกให้หมดก่อนที่จะนำไปผึ่งลมให้แห้งสนิท
- หากต้องการซักตุ๊กตาขนนุ่มด้วยเครื่องซักผ้า กรุณาตรวจที่ป้ายก่อนว่าสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ และดูว่าควรใช้น้ำอุณหภูมิเท่าใด ซึ่งถ้าชิ้นไหนสามารถซักในเครื่องได้ ก็ให้นำปลอกหมอนมาหุ้ม และผูกปมไว้ จากนั้นก็ซักและอบในเครื่องตามปกติได้เลย อย่าลืมเลือกโหมดอ่อนโยนและโหมดถนอมใยผ้า ใช้น้ำอุ่นและน้ำยาสำหรับเด็ก เสร็จแล้วก็ผึ่งลมให้แห้ง หรือใช้ไดร์ความร้อนต่ำช่วยเป่า แต่พอตุ๊กตาใกล้แห้งสนิท ให้เปลี่ยนเป็นความร้อนกลางเพื่อช่วยให้ขนฟูนุ่มขึ้น
- ตุ๊กตาเจ้าหญิง หรือตุ๊กตาบาร์บี้ ต้องทำความสะอาดแบบแยกเป็นส่วนๆ โดยเริ่มแรก ส่วนร่างกาย ซึ่งมักจะทำจากพลาสติก ให้ล้างด้วยน้ำยาซักผ้าธรรมดาได้เลย ส่วนไอเทมที่ทำจากผ้า ให้ใช้น้ำผสมแชมพูเล็กน้อยในการล้าง อย่าลืมตากให้แห้งก่อนด้วย สุดท้ายเป็นส่วนผม ที่ดูแลยากเพราะพันกันง่าย ให้ดูแลคล้ายผมของเรา คือ สระด้วยแชมพูเด็กเบาๆ วนน้อยๆ แค่นี้ก็ช่วยให้ตุ๊กตาของลูกสะอาดใส เหมือนใหม่ น่าใช้งานขึ้นมากแล้ว
- หากเป็นตุ๊กตาตัวโปรดของคุณหนูๆ ที่ค่อนข้างมอมแมม และไม่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ควรโรยผงเบกกิ้งโซดาไปที่ตำแหน่งสกปรกก่อน แล้วผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อยลงไปน้ำระหว่างซักมือ เพื่อช่วยกำจัดคราบได้ง่ายขึ้น
5. ของเล่นที่ต้องใช้แบตเตอรี่
การทำความสะอาดของเล่นสำหรับของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่นที่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือของเล่นที่ต้องใช้แบตเตอรี่ ต้องระมัดระวังในการทำความสะอาดให้ดี ไม่งั้นอาจเสียหายได้ โดยมีขั้นตอน คือ ปิดเครื่องแล้วถอดปลั๊กหรือถอดแบตเตอรี่ออก
- ทำความสะอาดพื้นผิวภายนอก ด้วยการใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำสบู่ ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาด ผ้าจุ่มแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือใช้ผ้าจุ่มน้ำผสมคลอรีน อย่างใดอย่างหนึ่ง บิดน้ำออกให้พอหมาด แล้วนำไปเช็ดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกให้ทั่ว รวมถึงรอบปุ่มกด ซอกหลีบ และรอยเหนียวด้วย
- ปล่อยให้เปียกไว้อย่างน้อย 5 นาที ระวังอย่าให้น้ำไหลซึมเข้าไปในหน้าจอหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
- ล้างน้ำออกให้สะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
- ผึ่งลมให้แห้งสนิท ก็จะช่วยฆ่าไวรัส และแบคทีเรียได้ ก่อนเก็บของเล่น
6. ของเล่นในห้องน้ำ
ของเล่นในห้องน้ำมักจะเปียกอยู่ตลอดเวลา แถมยังเก็บอยู่ในที่ชื้น จึงเสี่ยงสะสมจุลินทรีย์ เชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดทุกวัน ล้างด้วยน้ำร้อนหลังจากใช้งานเสร็จทุกครั้ง บีบให้น้ำไหลออกหมด แล้วนำไปแขวนผึ่งลมไว้จนแห้ง หากใครอยากกำจัดเชื้อโรคให้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถใช้วิธีเดียวกับของเล่นจากพลาสติกได้เลย
7. ของเล่นที่ทำจากซิลิโคน
การทำความสะอาดของเล่นที่ทำจากซิลิโคน เป็นของเล่นที่เหนียว ทนทาน และค่อนข้างคล้ายยางชนิดนี้ สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการผสมน้ำอุ่นกับน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแชมพูเด็กเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ใส่ของเล่นลงไปแช่ไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะนำออกมาขัดๆ ถูๆ ด้วยผ้าหรือแปรงสีฟัน เสร็จแล้วก็ล้างน้ำออกให้สะอาด พร้อมทั้งผึ่งให้แห้งก่อนจะนำไปให้ลูกน้อยเล่นอีกครั้ง
8. รถจักรยาน รถของเล่น
แม้เป็นของเล่นชิ้นใหญ่ แต่มักจะถูกใช้งานไปทั่วบ้าน ทำให้เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคมาก ต้องหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ โดยให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วเช็ดให้ทั่วทุกส่วนบนของของเล่น เท่านี้ก็จะช่วยให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่ ไร้เชื้อโรคกวนใจ พร้อมใช้งานได้อีกครั้งแล้ว
ขั้นตอนฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาดของเล่น
ควรทำความสะอาดของเล่นโดยฆ่าเชื้อทันที หากลูกเพิ่งหายจากการเจ็บป่วยหรือเป็นหวัด หรือมีเด็กคนอื่นๆ มาเล่นของเล่นของลูกคุณ เพราะอาจมีเชื้อโรคแฝงอยู่
- ก่อนใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ควรกำจัดคราบสกปรกที่ติดอยู่ก่อน ล้างคราบด้วยน้ำสบู่ และใช้ฟองน้ำหรือผ้าสะอาดถูเบาๆ
- เมื่อไม่มีคราบแล้ว จึงเช็ดของเล่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- หากน้ำยาฆ่าเชื้อมีส่วนผสมของคลอรีน ควรเช็ดด้วยน้ำเปล่าอีกรอบเพื่อล้างคลอรีน แต่ถ้าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับเด็กที่สกัดจากสารธรรมชาติ ก็จะไม่มีสารเคมีตกค้าง
ไม่จำเป็นต้องเช็ดน้ำยาออก เพียงแค่ผึ่งลมให้แห้งก่อนเก็บของเล่นก็พอ
วิธีทำความสะอาดของใช้อื่นๆ
- เสื้อผ้า
วิธีซักเสื้อผ้าเด็กให้สะอาด ปราศจากเชื้อโรคกวนใจ ขั้นแรกต้องนำน้ำยาซักผ้าเด็กที่มีสารฆ่าเชื้อโรคแต่อ่อนโยนและปลอดภัย มากำจัดคราบน้ำมูก คราบน้ำลาย และคราบสกปรกต่างๆ ออกให้เกลี้ยงก่อน เนื่องจากคราบเหล่านี้จะทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมจนเกิดอันตราย ฉะนั้นจึงต้องขัดออกให้เอี่ยมก่อนจะแช่ลงในภาชนะที่ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากไวน์ขาว 1-2 ฝา เข้ากับน้ำเปล่า 1 ถัง ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที แล้วค่อยหยิบออกมาซักแบบปกติได้เลย
- เป้อุ้มเด็ก
ส่วนใหญ่แล้วเป้อุ้มเด็กสามารถทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าได้ตามปกติเลย โดยให้ใช้ฟังก์ชันน้ำเย็นกับผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนจะดีที่สุด ส่วนการทำให้แห้ง ถ้ายี่ห้อก็ใส่ในเครื่องอบผ้าได้ก็ใส่ ถ้ายี่ห้อไหนใส่ไม่ได้ก็นำไปตากแดด แนะนำให้อ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ให้ดี ที่สำคัญคือ เป้อุ้มเด็กควรล้างให้สะอาดก่อนใช้ครั้งแรก แต่ไม่ต้องจำเป็นต้องล้างหลังใช้งานทุกครั้ง ให้เว้นระยะได้ตามความสะดวกและเหมาะสม ถ้าเสี่ยงเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียมาก ก็ให้ล้างบ่อยขึ้นหน่อย นอกจากนี้ยังสามารถทำความสะอาดเป็นจุดๆ ด้วยการนำผ้าไปชุบน้ำที่ผสมสบู่หรือผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนมาแต้มและซับเบาๆ แทนก็ได้
- รถเข็นเด็ก
รถเข็นเด็กก็เป็นอีกหนึ่งของใช้ที่ต้องทำความสะอาด โดยบางยี่ห้อสามารถถอดส่วนที่เป็นผ้าออกมาซักในเครื่องซักผ้าได้ แต่บางรุ่นก็ไม่แนะนำให้ถอดและซัก ฉะนั้นจึงต้องทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำผสมสบู่อ่อนๆ แทน ทั้งนี้เราไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดหลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง เพียงแค่หมั่นดูแลรักษาเป็นประจำ อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ไม่เช่นนั้นจะยิ่งจัดการยาก รวมถึงบริเวณที่จับรถเข็น ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสัมผัสบ่อย ก็สามารถใช้ผ้าเปียกทำความสะอาด หรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรค แล้วเช็ดออกด้วยผ้าขนหนู หรือกระดาษทิชชูแทนก็ได้เหมือนกัน
- คาร์ซีท
สำหรับคาร์ซีทที่ทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าไม่ได้ ให้เราผสมน้ำอุ่นกับสบู่สูตรอ่อนโยนเข้าด้วยกัน จากนั้นนำผ้าสะอาดชุบลงไปและบิดให้พอเปียกหมาด นำไปเช็ดให้ทั่วทั้งเบาะ รวมถึงเข็มขัดและสายรัดด้วย เสร็จแล้วก็ผึ่งให้แห้ง ดูดฝุ่น สิ่งสกปรก และเศษอาหารออกก่อนประกอบกลับเข้าไปใหม่ ควรทำแบบนี้เป็นประจำ หรือทุกครั้งที่ลูกทำเลอะ ที่สำคัญอย่าลืมอ่านคำแนะนำบนฉลากให้ดีด้วยล่ะ
- โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม
เพียงแค่ฉีดสเปรย์สูตรแอนตี้แบคทีเรียที่ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติลงบนโต๊ะ แล้วนำกระดาษทิชชูมาเช็ดออก ก็จะช่วยให้โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมของคุณสะอาดทันใจ กำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้ทันตาเห็นแล้ว
- เก้าอี้ทรงสูงของเด็ก
วิธีทำความสะอาดเก้าอี้ทรงสูงของเด็ก ให้ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วย และน้ำโซดา 1 ถ้วย เข้าด้วยกัน ถ้าหากใครไม่ชอบกลิ่น ก็เติมน้ำมันหอมระเหยลงไป 8 หยด คนเบาๆ ให้เข้ากัน จากนั้นจุ่มผ้าไมโครไฟเบอร์ลงไป แล้วนำมาเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วเก้าอี้ โดยน้ำส้มสายชูจะเป็นตัวการจัดการเชื้อโรคและแบคทีเรียแบบธรรมชาติ โดยไม่ทำร้ายผิวของทารกเลยไม่แต่นิดเดียว
- อ่างอาบน้ำเด็ก
อ่างอาบน้ำเด็กจำเป็นต้องทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังใช้งาน โดยก่อนใช้ให้ฉีดสเปรย์สูตรธรรมชาติลงไป แล้วเช็ดตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เนื่องจากผ้าชนิดนี้สามารถดักจับสิ่งปรกออกจากอ่างอาบน้ำได้เป็นอย่างดี ส่วนหลังอาบน้ำให้ฉีดสเปรย์สูตรแอนตี้แบคทีเรียลงไปเพื่อช่วยป้องกันและทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็อยากเห็นลูกมีสุขภาพแข็งแรงและมีพัฒนาการที่ดี วิธีที่ดีที่สุดและทำง่ายที่สุดก็คือ หมั่นล้างมือให้ลูก และพร่ำสอนให้เด็กๆ ล้างมือวันละหลายๆ ครั้ง จนกลายเป็นนิสัย เพื่อจะนำไปสู่สุขอนามัยแบบยั่งยืน การทำความสะอาดของเล่นลูกเปรียบเสมือนยิงนัดเดียวได้นกสองตัว นอกจากจะป้องกันไม่ให้ของเล่นเป็นแหล่งเชื้อโรคที่ทำให้ลูกป่วยแล้ว ยังเป็นการตรวจเช็คสภาพว่า มีชิ้นส่วนใดชำรุด ควรซ่อมแซม หรือเสื่อมสภาพ
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก
- การเล่นเลโก้ เพิ่มทักษะการคิดและการแก้ไขปัญหา
- การฝึกวินัยให้ลูก เริ่มต้นที่พ่อแม่
- ลูกไม่กินข้าวเช้า มีวิธีแก้ไขได้อย่างไร
- สอนลูกแต่งตัว เริ่มสอนอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
- สอนลูกเขียนหนังสือ จะเริ่มต้นสอนอย่างไรดี
- หนังสือผ้า ไอเทมเด็ดเสริมจินตนาการและช่วยพัฒนาการลูกน้อย
ที่มาของบทความ
- https://www.amarinbabyandkids.com
- https://www.cleanipedia.com
- https://home.kapook.com
- https://www.thaichildcare.com
- https://www.mamaexpert.com
ติดตามอ่านเรื่องเกี่ยวกับเด็กได้ที่ inokk.com
สนับสนุนโดย ufabet369